พวงหรีดจังหวัดตรังเมื่อเวลา 14.00 น. 1 พ.ค. ที่วัดเขาแก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง นายสุพิทร์ ษุษบน อายุ 36 ปี อาชีพทำสวนยางพารา อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.6 บ้านผมเด็น ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ได้แถลงร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากนางกรองกาญจน์ บุษบน อายุ 32 ปี ภรรยาของตัวเอง เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ และไม่ทราบสาเหตุการตายที่โรงพยาบาลเอกชนในจ.ตรัง ขณะเจ็บท้อง มานอนรอคลอดเมื่อคืนวันที่ 25 เม.ย.54 กระทั่งตอนเช้าวันที่ 26 เม.ย. ภรรยาและลูกในท้องเกิดอาการช็อกเฉียบพลัน และเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของบรรดาญาติๆ โดยไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทั้งนายแพทย์เจ้าของไข้ และทางโรงพยาบาล
ด้านนายสุพิทร์ สามีผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตานองหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุ พยาบาลได้โทรศัพท์มาแจ้งตน ขณะนอนรอภรรยาคลอดอยู่ภายในห้องพักผู้ป่วยว่า ภรรยาอาการไม่ดี ให้รีบลงมาด่วน ซึ่งขณะนั้นแพทย์พยาบาลกำลังปั๊มหัวใจและให้ออกซิเจน ก่อนที่แพทย์เจ้าของไข้จะออกมาพูดกับตน โดยอ้างว่าที่นี่เครื่องมือไม่เพียงพอ และหัวใจของผู้ป่วยหยุดเต้นไปนานถึง 45 นาทีแล้ว ต้องนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ตรัง แต่ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ยื้อภรรยาของตนไว้นานนับชั่วโมง เพื่อให้ตนจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อน จำนวน 14,563 บาท
นายสุพิทร์ เล่าอีกว่า เมื่อไปถึงโรงพยาบาลศูนย์ตรัง แพทย์ระบุว่า มาช้าเกินไป จึงรีบนำตัวไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) จ.สงขลา แต่เสียชีวิตระหว่างทาง โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5-7 ชั่วโมง โดยแพทย์บอกเพียงว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายที่แท้จริงได้ ทำให้ญาติผู้ตายติดใจสงสัยในมาตรฐานการรักษา เนื่องจากได้ฝากท้องกับแพทย์เจ้าของไข้มาตั้งแต่เดือนแรกจนถึงครบกำหนดคลอด คือวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และปกติดีทุกอย่าง จนถึงเวลาเจ็บท้องใกล้คลอดตามกำหนด และเป็นท้องที่ 2 แล้ว อีกทั้งภรรยาไม่ได้มีโรคประจำตัวใดๆ ญาติเชื่อว่าเป็นเพราะแพทย์ปล่อยปละละเลย ไม่มาดูแลคนไข้ จนปล่อยให้ถุงน้ำคร่ำแตก และเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกในที่สุด
ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน แพทย์เจ้าของไข้พร้อมคณะแพทย์โรงพยาบาลดังกล่าว ได้นำพวงหรีดเข้าเคารพศพผู้ตายที่วัดเขาแก้ว แต่ปฎิเสธความรับผิดชอบ โดยยังอ้างว่าไม่รู้สาเหตุการตายที่แน่ชัด พร้อมให้ญาติยื่นข้อเสนอมา ทำให้ญาติผู้ตายไม่พอใจ ขณะนี้กำลังรอใบมรณบัตรเพื่อเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์เจ้าของไข้และโรงพยาบาลดังกล่าวในวันที่ 2 พ.ค.นี้ และเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายไมตรี อินทุสุต ผวจ.ตรัง จากนั้นเตรียมหารือกับญาติพี่น้อง แห่โลงศพประท้วงที่หน้าโรงพยาบาล เพื่อต้องการทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัดของภรรยาและลูกสาวในท้อง เพื่อขอความเป็นธรรม และเพื่อไม่ให้ชาวบ้านหรือผู้ป่วยคนอื่นๆ ต้องมาตกเป็นเหยื่อความมักง่ายรายต่อไป โดยค่าเสียหายตนไม่ได้ติดใจ แต่อยากให้แพทย์มีจรรยาบรรณวิชาชีพให้มากกว่านี้